ขึ้นชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนนั้น ต้องมีบ้างแหละที่เรามีความรู้สึกว่าอยากออกจากงาน หรือว่าเบื่อ หรือแค่รู้สึกไม่อยากจะเดินหน้าต่อไป แต่เราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่างานที่เราทำอยู่มันดีต่อความก้าวหน้าของเราหรือเปล่า หรือเราควรจะหางานใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้แล้ว?
เบสต์จ๊อบ เราได้ทำการศึกษาค้นคว้าถึงสาเหตุต่างๆ ทำให้รู้ว่าสัญญาณบ่งบอกเหล่านี้แหละ ที่จะเป็นตัวช่วยว่าเราควรจะเปลี่ยนงานหรือไม่ มาดูกันเลยครับว่ามีอะไรบ้าง
1 คุณรู้สึกเบื่อ
สัญญาณนี้อาจจะดูกว้างไปหน่อย แต่ว่ามันก็มีระดับ และความถี่เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างแรกลองวัดระดับความเข้มข้นของการเบื่อครับ เช่น ระดับต่ำ เบื่อที่จะทำงานชิ้นนี้ หรือ ไม่อยากตอบอีเมล์นี้เลย ความเบื่อระดับกลาง ตัวอย่างเช่น วันนี้อยากอยู่บ้านเฉยๆ ไม่อยากไปทำงานเลย หรือว่าอยู่ที่ทำงานแล้ว อยากกลับบ้าน ส่วนความเข้มการเบื่อระดับสูงก็จะมาในแนวเปรียบเทียบ ว่าถ้าเราบริษัทใหม่น่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่นี้นะ ซึ่งก็เป็นระดับที่ต้องพิจารณาแล้วล่ะครับ ส่วนความถี่ เราก็ต้องลองจดดูนะ ว่าความรู้สึกเบื่อนี่มันมาบ่อยแค่ไหน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายวัน
ความเบื่อไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเปลี่ยนงานเท่านั้นนะครับ อาจจะลองทำงานแบบใหม่ดู เช่น ใช้ไอเดียใหม่ๆ หรือว่าทำให้เร็วขึ้น ก็อาจจะช่วยความเบื่อนี้ได้ แต่ถ้ายังมีความรู้สึกแบบเดิมแล้วล่ะก็ อาจจะต้องลองหาที่ทำงานใหม่แล้วล่ะครับ
2 คูณรู้สึกไม่ชอบวันจันทร์ และอยากให้ถึงวันศุกร์
อันนี้แน่นอนว่าเป็นผลข้างเคียงของความเบื่อ ต้องดูว่าสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัวหรือเปล่า แต่ถ้ามันเกี่ยวกับงานแล้วคุณไม่สามารถแก้ไขได้นั้น ก็เป็นสิ่งบ่งบอกได้อีกอย่างนึงว่าคุณอยากจะเปลี่ยนงานใหม่
3 คุณพยายามทำอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่งาน ในเวลาทำงาน
ทั้งนี้หมายถึงเรื่องไร้สาระต่างๆ เช่น แอบดูละคร แอบเปิด social media ตลอดเวลา เป็นสัญญาณที่ดีว่าคุณไม่ได้มีสติกับงานที่ได้รับอีกต่อไป แต่ทั้งนี้หวังว่าคุณคงไม่ใช่คนขี้เกียจนะครับ
4 คุณเริ่มไม่มีวินัย
ยกตัวอย่างเช่น คุณมาสายอยู่บ่อยๆ คุณไม่สามารถส่งงานตรงตามที่กำหนดได้ คุณเริ่มรู้สึกว่าบางทีไม่ต้องส่งงานนี้ให้ทันเวลาก็ได้ คุณเริ่มเข้าประชุมสาย และไม่อยากฟังว่าในที่ประชุมคุยอะไรกัน
5 ความเครียดเข้ามาสู่ร่างกาย
ความเครียดนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย และคุณก็อาจจะรับรู้มัน หรือไม่รับรู้มันก็ได้ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเครียด แต่มันจะแสดงออกมาทางภาวะของพฤติกรรม รวมไปถึงมีผลกระทบกับร่างกายด้วย เช่น เริ่มมีอาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เริ่มมีอาการกรดไหลย้อน เป็นต้น หรือพฤติกรรมบางอย่างก็บอกว่าคุณเครียดได้ เช่น การทำหน้าขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา หรือการที่คุณไม่อยากจะร่วมสนทนาอะไรกับผู้ร่วมงานเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่น่าคุย
คุณจำเป็นจะต้องหาสาเหตุของความเครียด และกำจัดมันออกไปให้ได้นะครับ เพราะสิ่งนี้จะส่งผลต่อร่างกายและจิดใจ มีแต่ผลเสีย แล้วถ้าสาเหตุนั้นมาจากที่ทำงานแล้วล่ะก็ คุณควรจะมองหางานใหม่นะครับ
6 คุณไม่เคารพผู้นำ
ทุกคนในบริษัทล้วนมีผู้นำอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าตรงของคุณเอง หรือถ้าคุณเป็น CEO ก็ต้องเคารพบอร์ด ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่มีศรัทธาต่อคนเหล่านี้แล้ว มันก็ยากที่จะทำให้งานออกมาดี
7 คุณอยู่ในภาวะติด
หากคุณต้องการจะเลื่อนตำแหน่ง แต่ผ่านมาหลายโอกาสแล้ว ก็ยังไปไม่ถึงอยู่ดี ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไรก็ตาม ยกเว้นความสามารถไม่ถึง คุณก็ควรจะหางานใหม่ เพราะไม่มีเหตุผลอันดีอะไรที่จะอยู่ต่อไปถ้าการทำงานนั้นไม่ทำให้ชีวิตคุณก้าวหน้ามากขึ้น จำไว้ว่าที่ใหม่ดีกว่าที่เก่าเสมอ อย่างน้อยคุณก็ได้กระโดดเงินเดือนครับ
8 อนาคตของบริษัทมืดมน
ข้อดีของการเป็นพนักงานเงินเดือนคือ คุณไม่ต้องรับผิดชอบบริษัทที่กำลังจะร่วงจากธุรกิจครับ คุณมีทางเลือกเสมอว่าจะอยู่หรือจะไป
9 ไม่รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
ปัจจัยนี้สำคัญมากนะครับ ถ้าคุณไม่ได้มีความรู้สึกดีใจไปกับความสำเร็จของบริษัท หรือไม่รู้สึกตื่นตัวมากขึ้นกับยอดขายที่ตกลง หรือวัฒนธรรมองค์กรทำให้คุณรู้สึกอึดอัด และไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง ถูกกดขี่ อันนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่คุณจำเป็นจะต้องหางานใหม่แล้วล่ะ จะอยู่ที่เดิมทำไมนะ
10 คุณหมดพลังไปกับการเดินทาง
การเดินทางสำคัญนะครับ การที่ต้องเดินทางไปทำงานใช้วลารถติด 2 ชั่วโมงทุกวัน แค่คิดก็สยองแล้ว เดี๋ยวนี้มีงานมากมายที่ตอบโจทย์ใกล้บ้านมาก หรืออยู่ตามรถไฟฟ้าที่เดินทางสะดวกมากกว่า คิดดูนะครับ ถ้าเราลดระยะเวลาเดินทางได้เหลือ 30 นาที เราจะมีเวลาทำอะไรอีกเยอะมาก แถมยังไม่ต้องปวดหัวด้วยครับ
เอาล่ะครับ นี่คือสัญญาณหลักทั้งหมด ที่คุณควรมาตรวจเช็คกับตัวเองว่าตรงกับข้อไหนบ้างหรือเปล่า ยิ่งถ้าตรงมากกว่า 3 ข้อขึ้นไปแล้วล่ะก็ เตรียมตัวหางานใหม่ได้เลยครับ ชีวิตจะมีความสุขขึ้นเยอะ เว็บไซด์เบสต์จ๊อบ เรามีข้อเสนอดีๆ จากบริษัทชั้นนำอยู่หลายแห่ง คุณสามารถเข้าไปดูตามสายงานของตัวเองได้เลยครับ
