วิธีเขียน เรซูเม่ฝึกงาน ขั้นเทพ ให้น่าสนใจและได้งานไว!

วิธีเขียน เรซูเม่ฝึกงาน ขั้นเทพ ให้น่าสนใจและได้งานไว!

By: BestjobInTh Team | 7 พฤษภาคม 2562 | 179,455 views | 3377 shares


การฝึกงานนั้นถือว่าเป็นประสบการณ์ที่นักศึกษาปีที่ 3 และ 4 จะต้องเจอกันทุกคน และเรซูเม่ที่ดีนั้นไม่ใช่แค่ว่าจะต้องสวยอย่างเดียว แต่จะต้องมีรายละเอียดที่ดีอีกด้วย ถึงจะถูกใจบริษัท และทำให้เราได้งานกัน

โดยเฉลี่ยแล้วพนักงานสรรหาบุคลากรจะใช้เวลาเฉลี่ยในการอ่านเรซูเม่ของนักศึกษาฝึกงานแต่ละคน ประมาณ 1 นาที ดังนั้นเรซูเม่ที่ดี คือเรซูเม่ที่มีความยาวที่พอดี มีเนื้อหาตรงกับที่บริษัทต้องการ เนื้อเน้นๆ ไม่เอาน้ำ

สำหรับนักศึกษาฝึกงาน การเขียนเรซูเม่เพื่อสมัครฝึกงานนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่มาก หลายๆคนก็ไม่เคยเขียนมาก่อน และไม่รู้ว่าจะเขียนเรซูเม่อย่างไรให้ได้ผลดี ในวันนี้เว็บไซท์เบสต์จ๊อบก็มี เทคนิคในการเขียนเรซูเม่ฝึกงานขั้นเทพ มาแชร์กันครับ

1. ธีมที่สวยๆน่าดึงดูด แต่อย่าลืมว่าจุดสำคัญอยู่ที่เนื้อหาข้างใน

เป็นที่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งแรกที่จะเห็นเพื่อนๆทำกันก็คือ การหาธีมสวยๆ แล้วนำมาแชร์กันในกลุ่มเพื่อนๆ นั่นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะเรซูเม่สวยๆ ใครๆก็ชอบ

แต่อยากให้มองว่าเรซูเม่ที่สวยๆนั้นก็เหมือนคนหน้าตาดีที่เราอยากรู้จัก พอมาเริ่มทำความรู้จักด้วยการอ่านเนื้อหาข้างในแล้วต่างหาก ถึงจะรู้ว่าคนนี้ดีจริงหรือไม่ดีจริง ดังนั้นเราอย่าเขียนเรซูเม่ที่สวยแต่กลวง กลับกัน ให้เขียนเรซูเม่ที่สวยด้วย เนื้อหาแน่นเอี๊ยดด้วยสิ เทพของจริง!

2. เขียนเฉพาะในสิ่งที่ HR ต้องการจะอ่าน

เรซูเม่ที่ดีนั้นจะต้อง เขียนในสิ่งที่ผู้อ่านต้องการจะอ่าน มีนักศึกษาหลายคนมากที่เวลาเขียนเรซูเม่ ดันเลือกที่จะไม่สนใจว่าผู้อ่านต้องการจะทราบข้อมูลอะไร และเลือกที่จะเขียนในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะเขียน นี่ถือเป็นจุดสำคัญมากๆจุดแรกที่ขอแค่เปิดใจ หาข้อมูลและรับรู้สักนิดว่า HR ต้องการจะอ่านอะไร เราก็แค่เขียนในสิ่งที่เขาต้องการจะอ่านลงไปเท่านั้น แค่นี้เรซูเม่ของคุณก็ได้เปรียบเรซูเม่ของนักศึกษาคนอื่นไปกว่าเท่าตัวแล้ว

3. เรซูเม่ภาษาอังกฤษ ได้เปรียบกว่า

กรุณาอย่าคิดว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ จึงไม่ใช้ เพราะในชีวิตการทำงานแล้ว เรซูเม่ที่เป็นสากลคือเรซูเม่ภาษาอังกฤษ ยิ่งโดยเฉพาะในยุค AEC ที่ในที่ทำงานจะมีคนจากหลากหลายเชื้อชาติผสมกันเต็มไปหมด (ส่วนมากก็เพื่อนบ้านเราน่ะแหล่ะ) ก็ต้องสื่อสารด้วยภาษากลางอย่างภาษาอังกฤษ

ใครที่ไม่เก่งอังกฤษ ก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะว่าจริงๆแล้วพนักงานสรรหาบุคลากรที่บริษัทเองก็ใช่ว่าจะเก่งอังกฤษไปซะทุกคนครับ ดังนั้นลองเขียนด้วยคำง่ายๆที่สุดดู และให้เพื่อนที่เก่งอังกฤษช่วยตรวจแกรมม่าร์อีกแรงก็จบล่ะ

4. ให้เริ่มต้นที่เป้าหมายในการทำงาน (Career Objective)

การเขียนเรซูเม่ที่ดีนั้นจะต้องแบ่งเรซูเม่ออกเป็นตอนๆด้วยกัน (ซึ่งเรซูเม่ของ Joblnw เองนั้นก็เป็นแบบนี้) และพวกเราก็แนะนำว่า สำหรับเรซูเม่นักศึกษาฝึกงาน ควรจะใส่เป้าหมายในการทำงานไว้บนสุด เพราะถือว่าเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ (เอาจริงๆคือลำดับแรก) ที่บริษัทจะทำความรู้จักกับคุณ

เป้าหมายในการทำงานที่ดีนั้นจะต้องตอบคำถามเหล่านี้ได้ชัดเจน

  • คุณมองว่าตัวเองจะทำงานอะไรในอีก 3 ปีข้างหน้า
  • คุณมีความสามารถอะไรที่บริษัทต้องการ
  • คุณจะนำความสามารถนั้นไปทำอะไรให้บริษัทได้บ้าง

การเขียนเป้าหมายในการทำงานจะเป็นเรื่องเฉพาะตัว ของใครของมัน จึงไม่มีรูปแบบที่ตายตัวนัก แต่ส่วนมากแล้วก็แนะนำว่าให้เขียนเป็นย่อหน้า ที่มีความยาวประมาณ 2-3 บรรทัดได้ก็จะกำลังสวยเลย ทีมงานเบสต์จ๊อบได้เขียนบทความเรื่อง จุดมุ่งหมายในการทำงาน (Career Objective) เอาไว้อย่างละเอียดแล้ว คุณสามารถตามไปอ่านได้เลยครับ

5. ต่อด้วยส่วนของการศึกษา

ในชีวิตของคนวัยทำงาน ส่วนมากแล้วก็จะเขียนเรื่องการศึกษาเอาไว้ล่างสุดของเรซูเม่ และเขียนสั้นมากๆเพียงแค่ชื่อมหาวิทยาลัย คณะ เอก และปีที่เรียน เท่านั้น (เพราะมันมีความสำคัญน้อยกว่าเรื่องอื่นๆเช่นประสบการณ์ทำงาน)

แต่ว่าสำหรับนักศึกษาฝึกงานแล้ว เมื่อเราไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน เราจึงต้องเน้นเรื่องการศึกษาด้วยนั่นเอง ให้เขียนถึงสิ่งต่อไปนี้

  • GPA ให้เขียนเกรดเฉลี่ยของตัวเองลงไปในเรซูเม่ด้วย เพื่อที่บริษัทจะได้เห็นความหยายามในการเรียนของคุณ แต่ถ้าคุณได้เกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 3.00 ก็ไม่ต้องเขียนมันลงไปก็ได้
  • วิชาที่เกี่ยวข้องกับฝึกงาน เขียนรายชื่อวิชาที่คุณได้เรียน ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครลงไป เพื่อให้บริษัทได้รู้ว่าคุณเคยผ่านอะไรมาบ้าง
  • รางวัลต่างๆ หากเคยได้รับรางวัลอะไร ก็เขียนมันลงไปด้วย
  • กิจกรรมต่างๆ หากเคยทำกิจกรรมมาก่อน ก็ให้เขียนลงไปด้วย โดยเฉพาะกิจกรรมกลุ่มอย่างกีฬา หรืองานอีเว้นท์ต่างๆ นี่คือสิ่งที่บอกบริษัทว่าคุณอยู่ร่วมกันกับคนอื่น ทำงานกับคนอื่นได้

6. ความสนใจเฉพาะตัว งานอดิเรก (ทางด้านวิชาการ)

นี่เป็นส่วนสุดท้ายที่จะต้องเขียน และอาจจะเป็นส่วนที่ยากที่สุด โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาฝึกงาน เพราะว่านักศึกษาส่วนมากแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองจะเขียนอะไรลงไปในส่วนนี้ ละจะพยายามเขียนงานอดิเรกของตัวเอง ที่ไม่มีประโยชน์ลงไปเพื่อให้เต็มหน้ากระดาษ

สิ่งที่ไม่ควรจะเขียนลงไป

คืองานอดิเรกของเราที่ รู้ก็ได้ ไม่รู้ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตใครเปลี่ยนไป เช่น

  • ดูหนัง
  • ฟังเพลง
  • ช้อปปิ้ง
  • ไปเที่ยว
  • ดูบอล
  • นอน

นอนนี่ถือว่าแย่ที่สุดเพราะบริษัทจะมองว่าคุณเป็นคนขี้เกียจ ถึงแม้ว่าคุณอาจจะแค่นอนพักหลังจากเรียนหนังสือมาหนักมากก็ตาม แต่สำหรับการเขียนลงเรซูเม่เพื่อให้คนแปลกหน้าอ่านและทำความรู้จักกับเราภายใน 1 นาที ลองนึกภาพว่าคุณป้าระเบียบมาอ่าน นี่จบเลยนะ ดังนั้นอย่าเขียนมันลงไปจะดีกว่านะครับ

สิ่งที่ควรจะเขียนลงไป

คืองานอดิเรกที่เกี่ยวข้องกับงานที่จะสมัคร เช่น

  • เขียนโปรแกรม
  • วาดรูป
  • งานสร้างสรรค์ต่างๆ
  • งานอาสาสมัครต่างๆ
  • กิจกรรมชมรมต่างๆ
  • กิจกรรมกีฬาต่างๆ

7. ใช้รูปถ่ายติดบัตร อย่าใช้รูปไปเที่ยว

มาถึงส่วนสุดท้ายกันแล้ว นั่นคือรูปถ่าย พวกเราแนะนำให้ติดรูปถ่ายของคุณลงไปในเรซูเม่ด้วย เพราะว่าเรซูเม่ของคุณจะเป็นกระดาษที่มีแต่ตัวหนังสือเต็มไปหมด การที่มีรูปถ่ายสีสดๆติดอยู่บนนั้นทำให้มันเด่นกว่า ได้เปรียบเรซูเม่ของคนอื่นที่ไม่มีรูปถ่ายนั่นเอง

และการใช้รูปถ่ายก็ให้ใช้รูปติดบัตรเท่านั้น อย่าใช้รูปไปเที่ยว รูปหันหลัง หรือรูปกลุ่ม เพราะบริษัทจะมองว่าคุณจะมาเล่นๆ มากกว่าจะสนใจทำงานนั่นเอง รูปสวยๆไปอัพลงเฟสบุ๊คนะ อย่ามาใส่เรซูเม่ สำหรับเรื่อง รูปถ่ายในเรซูเม่ นี้ทีมงานเบสต์จ๊อบก็ได้เขียนบทความลงลึกในรายละเอียดเอาไว้แล้ว ใครสนใจก็ตามไปอ่านกันได้เลยครับ

เอาล่ะ เพียงเท่านี้คุณก็น่าจะมีข้อมูลมากเพียงพอที่จะเขียนเรซูเม่ฝึกงานแล้วนะครับ ขั้นตอนต่อไปก็คือลงมือเขียนล่ะ ขอให้ทุกคนโชคดีครับ และก็เมื่อฝึกงานจบแล้วก็ต้อง เขียนประสบการณ์ในการฝึกงาน ลงในเรซูเม่เพื่อสมัครงานจริงๆอีกทีนะครับ

ลองใช้เครื่องมือสร้างเรซูเม่ของเบสต์จ๊อบสิครับ ฟรีและดีด้วย
สร้างเรซูเม่ฟรี

สำหรับใครที่เห็นว่ามันยากอะไรตรงไหน ผมมีข่าวดีมาบอกคือ เยสต์จ็อบของเราก็มีส่วนที่ช่วยสร้างเรซูเม่ให้ด้วยครับ ใช้ฟรี 100% และดีด้วยนะ ก็ขอแนะนำให้ลองใช้กันดูครับ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ

รักกัน ชอบกัน แชร์บทความนี้ให้เพื่อนได้เลยครับ


บริษัทดีๆ ที่น่าทำงานด้วย

ฝากประวัติกับ BestJob.in.th
ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

กรอกประวัติของคุณกับเว็บไซต์ BestJob.in.th วันนี้ รับแจ้งเตือนงานมาใหม่ก่อนใคร และรอรับข้อเสนอตำแหน่งงานจากบริษัทชั้นนำได้เลย!